แอพ LINE Dictionary นี้รวมเนื้อหาสอนภาษาอังกฤษและ เครื่องมือแปลภาษาจากพจนานุกรม อังกฤษ-ไทย โดย Oxford (ออกซ์ฟอร์ด) และ พจนานุกรมไทย-อังกฤษ โดย SE-ED (ซีเอ็ด) แต่การจะเก่งภาษาอังกฤษเครื่องมือดีๆ ก็ช่วยอะไรไม่ได้ถ้าไม่ลงมือฝึกฝนกันอย่างจริงจังนะคะ
สำหรับ LINE Dictionary เป็นแอพฝึกภาษาอังกฤษอีกตัวที่จะขอแนะนำ ก่อนอื่นไปดาวน์โหลดแอพนี้มาลองใช้งานกันก่อนผ่าน App Store (สำหรับ iOS) และ Play Store (Android) หลังดาวน์โหลดเสร็จแล้ว ให้คลิกเข้าไปใช้งานได้เลย เมื่อเปิดเข้าไปครั้งแรกจะมีคำสั่งให้ดาวน์โหลดไฟล์ DB ซะก่อน ให้คลิกที่คำว่า OK หลังดาวน์โหลดเสร็จก็คลิกคำว่า Start เพื่อเข้าสู่การใช้งานได้เลยค่ะ (แอพของ iOS อาจจะต่างจาก Android เล็กน้อย ที่มีให้เลือกภาษาก่อนทำการดาวน์โหลด)
คุณสามารถที่จะตรงเข้าไปค้นหาศัพท์ที่ต้องการที่ช่องค้นหาด้านบนได้เลย ในการค้นหาศัพท์นั้นนี้มีทั้งคำศัพท์ และประโยคตัวอย่าง มากกว่า 7 ล้านประโยค ระหว่างที่พิมพ์คำศัพท์ที่ต้องการ ศัพท์ใกล้เคียงพร้อมความหมายจะปรากฏมาให้เลือก ไม่จำเป็นต้องพิมพ์คำศัพท์นั้นเต็มคำ แค่พิมพ์อักษรบางตัวศัพท์ใกล้เคียงทั้งหมดก็จะปรากฏขึ้นมาให้เลือกคลิก หรือจะพิมพ์ศัพท์จนเต็มคำแล้วคลิกค้นหา ก็จะเข้าสู่หน้าของคำศัพท์ตัวนั้น ความหมาย พร้อมการออกเสียงที่ให้มาคู่กันทั้งสำเนียงอังกฤษและอเมริกัน คลิกที่ลำโพงฟังการออกเสียงได้เลย
ศัพท์แต่ละตัวนั้นจะให้คำแปลความหมายที่หลากหลาย มีคำพ้องเสียง และตัวอย่างประโยคจำนวนมาก มาพร้อมกับรูปลำโพงที่เอาไว้คลิกฟังเสียงอ่านเพื่อการฝึกภาษา โดยเฉพาะตัวอย่างประโยคที่ให้มามีเป็นร้อยเป็นพันประโยคที่มีคำแปลให้ทุกประโยค ใครที่ตั้งใจฝึกภาษาอังกฤษอย่างจริงจัง แนะนำแอพนี้เด็ดสุดเลยค่ะ และคำศัพท์แต่ละคำจะบันทึกอัตโนมัติไปเก็บไว้ในการ์ดคำศัพท์ ทำให้ง่ายต่อการค้นหาภายหลัง หรือต้องการกลับมาดูเพื่อการฝึกภาษา ซึ่งสามารถบันทึกได้ถึง 1000 คำทีเดียว และยังสามารถดูความหมายของศัพท์ได้แม้อยู่ในโหมดออฟไลน์ด้วย
ในโหมดของ Daily English จะสอนศัพท์ หรือประโยคใหม่ๆ ที่มีการอัพเดตทุกวัน มีลำโพงให้คุณคลิกฟังการออกเสียงที่ถูกต้อง แถมยังมีคำคม และสุภาษิตภาษาอังกฤษพร้อมคำแปลให้ได้เรียนรู้ไปพร้อมกันอีกด้วย
เชียร์ให้โหลดมาใช้กันค่ะ เป็นอีกสื่อหนึ่งที่จะช่วยให้คุณเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้ดีและเร็วขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความตั้งใจ และเอาจริงเอาจังของแต่ละคน สู้ๆ ขอให้เก่งอังกฤษกันทุกคนนะคะ
ที่มา: http://coolappforwork.blogspot.com/
No comments:
Post a Comment